ความเดิมตอนที่แล้ว
วันนั้นทั้งวันทุกคนเรียนไม่รู้เรื่อง แต่โชคดีที่เพิ่งเปิดเทอมวันแรก ชั่วโมงเรียนจึงไม่หนัก
และตอนเย็นเราทั้งสามจะไปเยี่ยมศิลาที่โรงพยาบาลปภาวดีมากระซิบบอกเอาไว้หลังมื้อเที่ยง
พอเริ่มเข้าชั่วโมงที่หก วีรนุชก็ใจคอไม่ดีเหมือนเคย
วีรนุชนั่งครุ่นคิดด้วยหัวใจเหม่อลอยไปจนหมดชั่วโมงเรียน
“เอาล่ะนักเรียนวันนี้แค่นี้นะ กลับบ้านไปทบทวนด้วยล่ะ”อาจารย์จำรูญย้ำ
“นักเรียนตรงขอบคุณค่ะคุณครู”ปภาวดีกล่าวนำเพื่อนขอบคุณอาจารย์ พร้อมๆ กัน
“วี.รตาพี่วิมมารอแล้วแน่ะข้างล่างเห็นไหม?”ปภาวดีเดินเข้ามาบอกพร้อมชี้มือให้เพื่อนดูรถและคนขับที่นั่งอยู่ด้านใน
“ไหนๆอ้อ..! พี่เขามารอนานแล้วเหรอวดี? ”รตาถามเพื่อนเพราะเกรงใจที่เขามาคอยรับส่งพวกเธอ
“ไม่มั้งพี่เขารู้นะว่าโรงเรียนเลิกกี่โมง พวกเราลงไปกันเถอะ”ปภาวดีชวนเพื่อนทั้งสองแล้วพากันเดินนำไปที่รถ
โรงพยาบาล
“เจ็บใจจริงๆอุตส่าห์ลำบากถ่ายมาแทบตายคิดว่าจะเก็บไว้เป็นหลักฐานและกำจัดวิญญาณยายนิลนาถได้ สุดท้าย ไฟไหม้เกลี้ยงแถมเจ็บตัวอีก”ศิลาพูดออกมาหาไม่ได้เกรงกลัววิญญาณร้ายแต่อย่างใด
“ฉันไม่อยากไปโรงเรียนเลย”วีรนุชกล่าวด้วยสีหน้าหมองๆ ใบหน้ายังคงซูบซีดเห็นได้ชัดเพราะสังเกตที่เพื่อนโดนมันเหมือนจะเป็นการเตือนกันแล้ว
ต้องเป็นฝีมือวิญญาณของคุณนิลนาถแน่ๆในตอนเย็นวันนั้นทุกคนกลับบ้านด้วยอาการครุ่นคิดและหวาดผวา
วีรนุชอาบน้ำจัดตารางสอนเสร็จลงมาดูทีวีเพื่อรอบิดากลับมาทานอาหารค่ำด้วยกัน ก่อนเข้าห้องนอน หล่อนเข้าห้องพระสวดมนต์ นั่งสมาธิแผ่เมตตากรวดน้ำให้กับวิญญาณของนิลนาถ อย่างน้อยๆ น่าจะช่วยได้บ้าง
-------------
ห้องA ชั้นสอง
“ทิ้งไปทิ้งไปเลย ทิ้งไป”เสียงหนึ่งดังก้องอยู่ในโสตประสาทชัดเจนจนวีรนุชต้องยกมือขึ้นอุดหู ใบหน้ายุ่ง เหงื่อซึมตามหน้าผากมน
“ไม่ไม่นะ..ไม่มีทาง ! ”หล่อนส่ายศีรษะแรงๆไปมา
จนครูนิยมมอง“เป็นอะไรวีรนุช ไม่สบายหรือเปล่า?”ร้องถามจากหน้าห้องเรียน
หญิงสาวเงยหน้าขึ้น“ปละ เปล่าค่ะอาจารย์”ตอบด้วยน้ำเสียงแผ่วเบา แม้ในใจจะยังสั่นระรัว เหงื่อเริ่มหยด
รตาหันไปมองเพื่อนเอามือแตะขาของเพื่อนตบลงเบาๆ
“เธอไม่เป็นไรนะวี”ถามเพื่อนเบาๆด้วยความเป็นห่วง ใจตัวเองก็สั่นไม่แพ้เพื่อนนัก
จะมีใครเชื่อว่าวิญญาณของคนที่ตายไปเมื่อหกปีที่แล้วยังคงวนเวียนอยู่ที่นี่
“เอาล่ะนักเรียนเดี๋ยวไปที่ห้องดนตรีต่อเลยนะ”เสียงของอาจารย์จินตนาที่เดินสวนเข้ามาบอกเมื่อหมดชั่วโมงของคุณครูนิยม
วีรนุชกำลังจะลุกขึ้นแต่...
“รตา..”เรียกเพื่อนที่ไม่ขยับด้วยความสงสัย
“วี..!ฉันไม่อยากยุ่งกับเรื่องนี้แล้วล่ะ ขอโทษด้วยนะ”ก้มหน้าบอกเพื่อนด้วยใบหน้าซีดเผือด“ฉันเริ่มกลัววิญญาณของคุณนิลนาถแล้วสิ”รตาสารภาพออกมาตรงๆหล่อนเข้าใจเพื่อน จึงพยักหน้ารับรู้เงียบๆ
“ จ้ะ เราไปห้องดนตรีกันเถอะ”เอ่ยปากชวนเพื่อนเสียงเบา
ทุกคนอยู่กันครบเมื่อหล่อนและรตาเข้าไปคุณครูก็มองและชี้มือไปที่เก้าอี้สองตัวที่เหลือ
“เป็นไงบ้างวีรนุชย้ายมาที่นี่ตั้งนานแล้วพอจะมีเพื่อนหรือยัง?”คุณครูจินตนาถามเมื่อทุกคนพร้อมแล้ว
“อาจารย์...”หญิงสาวยิ้มดวงตาเปล่งประกาย
“ต้องพยายามเข้ากับเพื่อนให้มากกว่านี้นะรู้ไหม?”ครูจินตนาบอกด้วยรอยยิ้มน้อยๆ
แปลกดีเหมือนกันทั้งที่โรงเรียนเก่าก็ออกจะมีเพื่อนมากมายรตาเงียบขรึมลงไป ไม่ช่างคุยเหมือนเมื่อก่อนปภาวดีก็ทำกิจกรรมมากขึ้น
ตอนนี้เหมือนอยู่คนเดียวเลย
ทุกคนหัวเราะสนุกสนานท่ามกลางวงล้อมของเพื่อนแต่หล่อนไม่มีใครสักคน
เมื่อพักเที่ยงวีรนุชเดินไปหาเพื่อนๆที่นั่งเกาะกลุ่มกัน “นี่ กินข้าวด้วยกันนะทุกคน”
แต่เจ้ากรรมเพราะความรีบแท้ๆจึงทำให้ขาไปขัดกับโต๊ะเข้า อย่างไม่ได้ระวังจานอาหารพลิกคว่ำลงบนพื้นแตก
กระจายเศษอาหารกระเซ็นใส่เสื้อผ้าของเพื่อนจนเลอะเทอะ
“ว๊าย..!”
“ขอโทษจ้ะขามันขัดน่ะ”ใบหน้าวีรนุชซีดเผือดละล่ำละลักกล่าวขอโทษเพื่อนก่อนจะเข้าไปช่วยปัด แต่เพื่อนกลับปัดมือหล่อนออกอย่างแรง
“จะบ้าเหรอ..ดูซิเลอะหมดเลยไม่ต้องมายุ่ง” สีหน้าที่พูดและมองมายังหล่อนบอกอาการหงุดหงิดอย่างแจ่มชัดก่อนที่เธอจะเดินเข้ากลุ่มเพื่อนๆที่ย้ายโต๊ะไปอีกทาง
วีรนุชก้มหน้าเก็บเศษแก้วชิ้นใหญ่ใส่ถุงแล้วเดินไปหยิบที่โกยขยะกับไม้กวาดมากวาดเศษอาหารที่หกเรี่ยราดไปทิ้งด้วงดวงตาละห้อย
เวลาผ่านไปเชื่องช้าจนน่าเบื่อสำหรับวีรนุชกว่าจะหมดชั่วโมงเรียนในแต่ละวันช่างทรมานนัก
มีข่าวว่าศิลาได้กลับมาอยู่บ้านแล้วแต่ยังเดินเหินไม่คล่องจึงมาโรงเรียนไม่ได้
“พรุ่งนี้มีทัศนศึกษาเราจะไปกันที่สวนสัตว์เขาเขียวล่ะวี ต้องสนุกแน่ๆ เลย”ปภาวดีเดินเข้ามาหาบอกด้วยรอยยิ้มเพราะวันนี้ไม่มีกิจกรรม รตาแม้จะเงียบไปคุยน้อยลง แต่ก็ยังมาเข้ากลุ่มบางครั้ง
“ดีจังเลยนะวดีคิดถึงศิลาจัง”วีรนุชตื่นเต้น และคิดถึงเพื่อนไปด้วยพร้อมกัน เสียดายนักที่ไม่มีศิลาไปด้วยนานๆจะไปไหนมาไหนด้วยกันแบบนี้สักที่
“ฮื่อ..ใช่เสียดายแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ วันนี้เดี๋ยวเราก็แยกย้ายกันกลับบ้านพรุ่งนี้มาแต่เช้านะวี รตาบายจ้ะ”ปภาวดีทักทายก่อนจะกลับไปนั่งโต๊ะเรียนอีกวิชาหนึ่ง
คืนนี้หล่อนจะสวดมนต์แผ่เมตตาบทใหญ่จะได้นอนหลับสบายตลอดจนถึงเช้าเหมือนทุกคืน
*โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ*
ก้มกราบบ่อยๆจะช่วยลดความทระนงลงได้บ้าง