/ชีวิตล่วงพ้นไปเลยวัยฝัน
ผ่านคืนวันโหยไห้ไร้ความหมาย
มีแต่ความเงียบเหงาและเปล่าดาย
กับสำนึกสุดท้ายในตัวตน
/กับชีวิตที่เรียนรู้สู้ทุกวัน
ระหว่างตัวกับใจฉันช่างสับสน
บางครั้งใจนำตัวก็มัวมน
ต้องพลัดหล่นเลียแผลแพ้ใจตัว
/และเมื่อตัวนำใจยิ่งร้ายกว่า
หมดปัญญาถ่ายถอนตอนเกลือกกลั้ว
ยิ่งหน้ามืดยิ่งพะวงหลงเมามัว
อาบความชั่วร้อนร้ายเป็นรายวัน
/เพลินในดงแสงสีที่ฉาบฉวย
เหมือนสัตว์ป่วยติดบ่วงบาศก์ไม่อาจบั่น
ต่องนอนนิ่งจำนนทนกับมัน
ตื่นสวรรค์แต่กลับตกนรกใจ
/ดังนกน้อยเพลินทะเลเร่หาฝั่ง
ต้องสิ้นหวังสิ้นเรี่ยวแรงแข่งฟ้าใส
เพราะปีกอ่อนเกินจะท้าทะเลไกล
เพียงลมไกวร่างก็แกว่งไร้แรงทาน
/ฉันจึงเพียรเรียนรู้เพื่อสู้โลก
เผชิญโชคพบชะตาอย่างกล้าหาญ
และสิ่งหนึ่งซึ่งรับรู้คู่วันวาร
คือประสานใจให้ชิดติดตัวตนฯ.
แพรอักษร ๒๕/๐๕/๕๖
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น