Translate

วันจันทร์ที่ 9 มีนาคม พ.ศ. 2558

~*ชั่วนิจนิรันดร์*~ ตอนที่๕


บทที่ ๕
บ้านพักตากอากาศริมทะเลนอกเมือง ๒๐.๔๕ น.
ยุกันดานั่งมองนาฬิกาที่เดินอย่างเชื่องช้าด้วยความกระวนกระวาย กับการมาผิดเวลาของเขา ปรกติดิษฐ์จะไม่เคยก่ะเวลาผิด แม้ผิดก็ต้องโทรมาบอก แต่นี่เงียบไปเลย เวลาก็เลยมากมากแล้ว
‘คุณดิษฐ์มาช้าจังเป็นอะไรหรือเปล่านะ นี่ก็เลยเวลานัดมาเกือบชั่วโมงแล้ว จะว่ารถติดก็ไม่น่าจะใช่ ยังไงเขาก็น่าจะโทรมาบอกกันบ้าง’ คิดฟุ้งซ่านในใจไปเรื่อย หญิงสาวลุกไปที่โทรศัพท์ หยิบมันขึ้นมากดหาเบอร์เขา แต่ติดต่อไม่ได้เหมือนโทรศัพท์โดนปิดเครื่อง กวาดตามองหาสมุดโทรศัพท์เพื่อจะค้นเบอร์ของนายยิ่ง เมื่อเจอก็กดไปทันที
ติ๊ด ติ๊ด..
ติดต่อได้ สัญญาณปลายสายว่าง แต่ไม่มีผู้รับสาย ‘เขาจะเป็นอะไรหรือเปล่านะ’
ติ๊ด ติ๊ด..กิ๊ก..! คล้ายกับสัญญาณโดนตัด ยุกันดาเริ่มนั่งไม่ติด ลุกขึ้นเดินไปมา ใบหน้ามีแววกังวล ในใจก็รุ่มร้อนอย่างช่วยไม่ได้
หวิว ...
หญิงสาวชะโงกหน้าออกไปมองด้านนอกหน้าต่าง ค่ำนี้ลมพัดแรงจัง เมฆดำมะเมื่อม หน้าต่างถูกลมตีเข้าเบียดกับเหล็กคล้องดัง เอี๊ยดอ๊าดๆ
เพล๊ง....
ร่างบางสะดุ้ง รีบหันไปมองที่มาของเสียง ก็เห็นกรอบรูปเขาที่วางไว้บนตู้เย็นใกล้กับขอบหน้าต่าง ตอนนี้ตกลงมากระจกแตกจนหล่อนต้องเดินเข้าไปเก็บและทำความสะอาด กวาดเอาทรายที่หกมากองบนพื้นนั้นด้วยที่โกยขยะ แล้วลุกเดินไปปิดหน้าต่างบานนั้นเสีย
ใบหน้าหล่อนในยามนี้ มีร่องรอยความกังวลฉายชัด แหงนหน้ามองนาฬิกาอีกรอบ ขณะนี้เวลา ๒๑.๐๕ น. เท้าไวเท่าความคิด หล่อนลุกขึ้นเดินเข้าในห้องอย่างร้อนรน ในใจก็คิดไปสารพัด
‘เขาจะเป็นอะไรหรือเปล่านะ โทรไปตั้งหลายรอบก็ไม่รับสาย ถึงแม้รถจะติด แต่ก็ไม่น่าเสียเวลามากขนาดนี้ หรือว่าเกิดอุบัติเหตุ? ’ รีบหลับตาลงสลัดศีรษะแรงๆ เพื่อขับไล่ความคิดนั้นให้พ้นออกไป หล่อนนั่งหน้านิ่วคิ้วขมวด ใจก็คิดอยากโทรสอบถามข่าวเรื่องอุบัติเหตุ แต่ไม่รู้ว่าจะโทรไปที่ไหน ครั้นจะโทรถามเมฆก็ไม่มั่นใจว่าเขาจะรู้ ยุกันดาหันซ้ายหันขวานั่งและยืนไม่ติดที่แล้วเวลานี้
ติ๊งต่อง....
ร่างนั้นสะดุ้งก่อนจะถลาไปที่ประตู เปิดมันออกอย่างรีบร้อน
ผลัวะ...
ใบหน้านั้นระบายยิ้มจนแก้มแทบปริ ด้วยความดีใจกับภาพตรงหน้า ที่เห็นว่าเป็นใครก่อนเดินเข้าไปใกล้ หยุดมองเขาด้วยหัวใจเต้นระทึก
ในยามนี้ ใบหน้าของเขาที่เหม่อมองออกไปข้างนอก ปะทะกับแสงไฟเกิดประกายระยิบระยับแสนงดงาม แต่เงียบขรึม เศร้าสร้อย เหมือนคนแสนเหงา ว้าเหว่ ก่อนเบือนมาเห็นว่าหล่อนยืนมองไม่ห่าง เขาก็หันมาทางหล่อนทั้งตัวแทน
“คุณดิษฐ์” หล่อนเรียกเขาด้วยน้ำเสียงเบาหวิว “มาช้าจังเลยนะคะ รู้ไหม ฉันเป็นห่วงแทบแย่แน่ะ” ทักทายด้วยเสียงละห้อยก่อนเดินเข้าไปกอดเขาไว้ และเขาก็กอดตอบหล่อนเช่นกัน
“คิดถึงคุณมากรู้ไหม ยุกันดา”
“ค่ะ ยุก็คิดถึงคุณมากเหมือนกัน” พูดแล้วเงยหน้ามองเขา หล่อนเห็นใบหน้าคร้ามคมนั้นซีดเผือด จึงอดถามเขาไม่ได้ “คุณเป็นอะไรไปคะ ทำไมหน้าซีดจังเลย ไม่สบายหรือเปล่า งั้นเข้าข้างในเถอะค่ะ” หล่อนคล้องมือลงในวงแขนของเขา ที่ยืนเอามือล้วงกระเป๋ากางเกงไว้ ก่อนออกแรงรั้งเขาเข้าบ้าน ร่างหนาไม่ขยับ แต่ขืนร่างกายเอาไว้อย่างไม่อยากขยับไปไหน ยุกันดางุนงงกับท่าทีของเขา
“เหนื่อยหรือเปล่าคะ” ถามเบาๆ แล้วเงยหน้าขึ้นมองสำรวจอีกครั้ง ก็เห็นความอิดโรยฉายชัดบนใบหน้าคร้ามเข้ม
“ยังไม่เข้าดีกว่า เรายืนรับลมตรงนี้กันสักครู่เถอะนะที่รัก” เขากล่าวออกมาเสียงไม่ดังนัก คราวนี้หญิงสาวมองเขาอีกครั้งอย่างสงสัย แต่ยังไม่ทันได้ถาม เขาก็เอ่ยชวนมาก่อน
“เราไปข้างนอกกันไหมครับยุ” เมื่อเอ่ยมาแล้ว เขาก็จ้องมองดวงตาหล่อนอย่างเหงาๆ ริมฝีปากเม้นเป็นเส้นตรง ใบหน้ากังวลเหมือนคอยคำตอบ
“เอ!” หล่อนยิ่งงงหนัก กับท่าทีที่แสดงออกมาของเขา
“ผมอยากพักผ่อนและอยู่กับคุณสองต่อสอง เรามีบ้านพักอีกที่หนึ่ง ที่เป็นธรรมชาติกว่าที่นี่ ผมอยากพาคุณไปที่นั่นมากกว่า บ้านหลังนั้นติดกับชายเขา แถวนั้นอากาศดีไม่เหนียวตัว ผมบอกให้เขาทำความสะอาดไว้ให้แล้ว เสร็จจากงานผมขอลาพักร้อนเดือนครึ่ง เพื่อจะได้ใช้วันหยุดอยู่กับคุณ ตั้งแต่พรุ่งนี้ไป” ชายหนุ่มจ้องเข้าไปในดวงตาของหล่อนหวานซึ้ง ก้มหน้าลงปิดปากหล่อนด้วยริมฝีปากเขาอย่างเร่าร้อน เรียกร้องในที
“ค่ะ แล้วเราจะไปกันตอนนี้เลยหรือคะ ในเมื่อยังไม่ได้เตรียมอะไรเลย” ถามด้วยความแปลกใจ
“ใช่แล้วจ้ะ ไม่ต้องเตรียมหรอก ที่โน่นมีเยอะแยะ” เขารีบอธิบายให้หล่อนเลิกกังวล
“แต่ว่า.ยุเตรียมอาหาร และแชมเปญฉลองเอาไว้นะคะ” หล่อนท้วงเขาเบาๆ แต่เขาไม่ฟังทั้งเตรียมตัวเดิน แขนหล่อนรั้งเอาไว้ ก่อนจะทอดสายตามองไปที่โต๊ะอาหาร ก่อนปลดมือออกจากแขนเขา
“เดี๋ยวนะคะ ขอยุเอาใส่ตู้เย็นก่อน” บอกทั้งเตรียมหมุนร่างไปทางโต๊ะอาหาร
“ยุกันดา.” เขาเรียกหล่อนด้วยน้ำเสียงค่อนข้างดัง มือก็เอื้อมมารั้งแขนนวลเอาไว้ “ขอร้องล่ะยุ เราออกไปกันตอนนี้เลยดีกว่า ผมใจร้อน” เขาไม่สนใจว่าหล่อนจะมีสีหน้าอย่างไร เมื่อรั้งร่างบางให้เดินตาม แต่หญิงสาวเห็นสีหน้าของเขาดูร้อนรน คิ้วหนาเข้มขมวดเข้าหากันอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน เหมือนเขาต้องการจะหนีอะไรสักอย่าง ที่หล่อนไม่รู้ว่าคืออะไร
“คุณดิษฐ์..! เดี๋ยวสิคะ ล็อคประตูก่อน” เรียกเขาไว้ และไม่พูดเปล่า เมื่อมือนั้นพยายามจะคว้าเอาพวงกุญแจไว้ แต่ก็คว้ามาไม่ได้ เมื่อเขาออกแรงดึงหล่อนออกมาจากจุดนั้นอย่างรีบร้อน พวงกุญแจตกเขาก็ไม่เปิดโอกาสให้หล่อนก้มเก็บ
“คุณดิษฐ์”

โดย..เงาบุหงา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Elegant Rose - Working In BackgroundElegant Rose - Working In BackgroundElegant Rose - Working In Background