ขอขอบคุณบทกลอนของคุณธนา มา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
--------------
ความเอ๋ย...........ความรัก
เจ้าจำหลักปักวางอยู่ทางไหน
เฝ้าเวียนวนค้นหาขอบฟ้าไกล
แค่รอยไถไหมร้อยฤาคล้อยจาง
เจ้าสำอางยางสูงดั่งยูงหงส์
หยิ่งทะนงสำแดงรำแพนหาง
เลิศสำรวยสวยสดหมดอำพราง
ทุกเยื้องย่างยาตราดั่งราณี
แววระยับจับห้วงแห่งดวงจิต
สิงสถิตกลางใจไม่หน่ายหนี
ดั่งเปลวเพลิงเหลิงโหมโถมชีวี
รอวันที่มอดไหม้ในใจตน
ค่ำคืนนี้เคยมีเขาเคียงคู่
ออดอ้อนอยู่รู้ใจไปทุกหน
มาวันนี้ไม่มีแม้ตัวตน
ไม่มีคนเคยรักเคยปักใจ
เขาไปอยู่แห่งไหนในคืนนี้
คำรักที่เคยให้จำได้ไหม
รักเราสองปองค่าเกินกว่าใคร
ฤาโหมไหม้เปลวไฟที่ไหม้ฟาง
ไม่มีเสียงสิ่งใดในความเงียบ
เย็นยะเยียบเฉียบหมายหน่ายเมินหมาง
หรือว่ารักรวยรินกลิ่นจืดจาง
หนาวน้ำค้างราตรีคลี่น้ำตา
ยังมีเหลือเผื่อไว้ในใจไหม
ในซีกใจมีไหมใคร่ห่วงหา
ยังเหลือไหมเยื่อใยในสัญญา
ยังมีค่าอีกไหมให้จดจำ
โอ้ความรักยิ่งใหญ่ใจเรียกหา
หยาดน้ำตาเนืองนองครองถลำ
สู่เหวห้วงบ่วงลึกสำนึกจำ
ที่ยังร่ำเรียกร้องก้องแต่เธอ
ตำนานแห่งสายน้ำ
/ความเอย......ความรัก
ใคร่สลักปักถ้อยร้อยเสนอ
มากำนัลปลอบขวัญในวันเจอ
หรือว่าแค่ละเมอเพ้อบางคราว
/เขาเปรียบใครกันสูงดั่งยูงหงส์
ใครทะนงในศักดิ์จนรักร้าว
หรือเปรียบเปรยเล่นเล่นเป็นเรื่องราว
ทำอกหนาวรุ่มเร้าเคล้าราตรี
/จันทร์พราวแพรวแนวเขาร่มเงาไม้
นวลไสวใสกระจ่างระหว่างนี้
ทอดร่างนอนนับดาวน้าวชีวี
รอวันที่เธอกลับมารับใจ
/ค่ำคืนนี้แม้ห่างทางขรุขระ
จับระยะความรักมาพักไว้
ให้เหลือเศษเสี้ยวส่วนป่วนภายใน
ก่อนคว้าไขว่มาสนองคล้องแนบทรวง.
แพรอักษร
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น