แดดยามสายเริ่มร้อนจัด ภายใต้ร่มเงามะพร้าวเตี้ย ๆ ต้นหนึ่งริมถนนสายใหม่ซึ่งตัดตรงไปยังชายทะเลบางตาวา อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานีนั้น กว้างพอที่จะขจัดความร้อนลงได้บ้าง หนุ่มสาวสองคนได้มาพบกันที่นี่ ฝ่ายชายดึงภาพถ่ายขนาดโปสการ์ดออกมาจากกระเป๋าเสื้อด้านซ้าย แล้วสลักลงไปหลังภาพด้วยประโยคที่บอกถึงอารมณ์ความฝันของเจ้าของลงไป
"สายจ๋า, ขณะนี้คุณอยู่ที่ไหน สัญชัยกำลังเพรียกหาคุณอยู่"
เขาส่งภาพนั้นให้เธอ สีหน้าหญิงสาวงวยงง รับภาพนั้นมาดูด้านหน้าแล้วพลิกดูด้านหลัง ดวงตาเบิกกว้าง ถามด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ
"ตายจริง สัญชัย, ทำไมจึงเขียนอย่างนี้เล่าคะ ?"
เขาหัวเราะบ้าง แต่น้ำเสียงปร่า-ขวยเขิน จ้องใบหน้าสายทิพย์นิ่งนานเหมือนจะพิมพ์ภาพนั้นไว้ในดวงใจ
"เพื่อความสัมพันธ์อันแนบแน่นของเรา และเพื่อการจาก ที่อาจยาวนานกว่าเราจะได้มาพบกันอีก หวังว่าข้อความข้างหลังภาพนี้พอจะเตือนใจสายได้บ้าง"
๒
สัญญาดั่งเสียงลม
ใบไม้สีน้ำตาลถูกลมพัดเป่าปลิดขั้วจากต้นซึ่งขึ้นอยู่บริเวณนั้นให้ปลิวร่วงลง มาใกล้ ๆ กับที่คนทั้งสองยืนอยู่ สัญชัยก้มลงมองใบไม้ด้วยหัวใจสั่นไหว ก่อนจะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงล้าแรง
"ผมลาราชการมาเพื่อพักผ่อน รักษาตัว อีกสอง-สามวันก็จะครบกำหนด ต้องรีบกลับกรุงเทพ งานที่นั่นกำลังรออยู่"
ใบหน้าหญิงสาวสลดวูบ น้ำเสียงที่หลุดลอดมาเหมือนไม่คาดฝันกับเรื่องราวที่รับรู้
"หรือคะ" ใจหายวูบ อดถามมิได้ "แล้วสัญชัยจะกลับมาที่นี่อีกไหมคะ?"
"กลับมาซีครับ" เขารีบตอบ "ต้องกลับมาแน่นอน หัวใจผมอยู่ที่นี่"
สายตาที่จ้องมองหญิงสาวเหมือนจะบอกอะไรบางอย่าง สายทิพย์ไม่กล้าสบสายตากับเขา แสร้งมองไปทางนกเล็ก ๆ สองตัวที่คลอเคลียกันอยู่บนกิ่งไม้ใกล้ ๆ นั้น
"จะกลับมาเมื่อไหร่ ?" ถามอีกครั้งเหมือนจะคาดคั้น
สัญชัยลังเล เหมือนมีอะไรบางอย่างที่ยากแก่การตัดสินใจ แต่ในที่สุดก็ให้สัญญา
"ก่อนสิบสามเมษายน ผมจะกลับมาเล่นสงกรานต์กับสายที่นี่" เขาเอื้อมมือไปจับปลายนิ้วของเธอ บีบเบา ๆ
"คอยผมนะ" พูดเหมือนขอความมั่นใจ
หัวใจสายทิพย์สั่นไหว หลุดปากออกมาแผ่วเบา
"ค่ะ สายจะคอย"
๓
ฝากไว้ด้วย...หัวใจดวงนี้
ต่างนิ่งเงียบกันไปชั่วขณะ ได้ยินแต่เสียงลมที่พัดวู่หวิว นกเล็ก ๆ ระเริงร้องอยู่ในละเมาะไม้ใกล้ ๆ นั้น ไกลออกไป – บ้านของสายทิพย์ตั้งตระหง่านอย่างสงบอยู่ท่ามกลางดงมะพร้าว หลังคาสังกะสีสะท้อนแสงจนนัยน์ตาพร่าพราย
สัญชัยลดสายตาลงจากสิ่งเหล่านั้น และเป็นขณะเดียวกับที่หญิงสาวเงยหน้าขึ้น ตาต่อตาสบกัน แล้วเขาก็ได้เห็นรอยยิ้มที่บอกถึงความรู้สึกจากส่วนลึกของหัวใจ สายทิพย์บอกเขาด้วยสำเนียงค่อนข้างเบา
"สัญชัย คอยสายอยู่ที่นี่สักครู่นะคะ" เห็นสัญชัยจ้องมองสงสัย เธอรีบบอกเหตุผล "สายจะกลับไปที่บ้าน ครู่เดียวเท่านั้นค่ะ เดี๋ยวสายจะกลับมาหาสัญชัย"
"ไปทำไม ?"
"ธุระบางอย่าง รอนะคะ สายไปล่ะ"
ผละออกไปอย่างรวดเร็ว
สัญชัยมองตามหลังร่างโปร่งปราดเปรียวนั้นไปจนลับตา
มีอะไรหลายอย่างที่น่ารักรวมอยู่ในตัวของเพื่อนสาวตาคมดำขลับคนนี้ ยามใดได้พบ – ใกล้ชิดกับเธอ เขาไม่อยากนึกถึงอดีตอันมีแต่ความเจ็บปวดรวดร้าวและทุกข์ทรมาน ไม่อยากคิดถึงอนาคตซึ่งมีแต่ความมืดมิดเหมือนถูกกักขังอยู่ในห้องทึบ สัญชัยอยากมีแต่ปัจจุบันอันเปี่ยมล้นไปด้วยความสุขสดชื่นเพราะมีสายทิพย์ อยู่ใกล้ ๆ
เขาถอนหายใจ ทรุดตัวลงนั่งที่โคนมะพร้าว คอยสายทิพย์ด้วยหัวใจว้าวุ่นสับสน
สิบนาทีผ่านพ้นไปอย่างเชื่องช้า สายทิพย์จึงกลับมาพร้อมภาพถ่ายขนาดโปสการ์ดใบหนึ่ง
มือซึ่งถือภาพถ่ายและปากกาสั่นระริก เอ่ยถามสัญชัยด้วยเสียงเหนื่อยหอบ ค่อนข้างประหม่า
"ภาพถ่ายสายเอง ขอมอบให้สัญชัยเป็นที่ระลึก แต่เขียนสลักข้อความว่าอย่างไรดีคะ? "
สัญชัยมองใบหน้าสีชมพูเปล่งปลั่งเพราะแรงฉีดของโลหิต อย่างตื่นตลึง ตอบเสียงเบา
"เขียนตามที่หัวใจของสายอยากจะบอก"
เธอก้มหน้า ใจเต้นระทึก เม้มริมฝีปากนิ่งงันอยู่ครู่ใหญ่ ในที่สุดก็ตัดสินใจสลักอักษรลงหลังภาพด้วยลายมือเรียบง่ายสวยงาม
"แด่สัญชัย มิตรใหม่ที่สายพอใจที่สุดค่ะ"
เพียงสายทิพย์ยื่นภาพนั้นให้เขา สัญชัยรีบรับเอามาทาบที่หน้าอกเบื้องซ้ายซึ่งหัวใจกำลังไหวระริก พร้อมกล่าวช้า ๆ ชัดถ้อยชัดคำจากส่วนลึกของหัวใจ
"...แม้เพียงภาพซาบซึ้งตรึงใจแล้ว
ถึงดวงแก้วแววฟ้าค่านับแสน
มาขอแลกแปลกปลอมไม่ยอมแทน
จะหวงแหนภาพสายจวบวายปราณ"