Translate

วันศุกร์ที่ 19 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

คืนหัวใจ ประพันธ์โดย รุจิเรข อภิรมย์


แดดยามสายเริ่มร้อนจัด ภายใต้ร่มเงามะพร้าวเตี้ย ๆ ต้นหนึ่งริมถนนสายใหม่ซึ่งตัดตรงไปยังชายทะเลบางตาวา อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานีนั้น กว้างพอที่จะขจัดความร้อนลงได้บ้าง หนุ่มสาวสองคนได้มาพบกันที่นี่ ฝ่ายชายดึงภาพถ่ายขนาดโปสการ์ดออกมาจากกระเป๋าเสื้อด้านซ้าย แล้วสลักลงไปหลังภาพด้วยประโยคที่บอกถึงอารมณ์ความฝันของเจ้าของลงไป

"สายจ๋า, ขณะนี้คุณอยู่ที่ไหน สัญชัยกำลังเพรียกหาคุณอยู่"
เขาส่งภาพนั้นให้เธอ สีหน้าหญิงสาวงวยงง รับภาพนั้นมาดูด้านหน้าแล้วพลิกดูด้านหลัง ดวงตาเบิกกว้าง ถามด้วยเสียงกลั้วหัวเราะ
"ตายจริง สัญชัย, ทำไมจึงเขียนอย่างนี้เล่าคะ ?"

เขาหัวเราะบ้าง แต่น้ำเสียงปร่า-ขวยเขิน จ้องใบหน้าสายทิพย์นิ่งนานเหมือนจะพิมพ์ภาพนั้นไว้ในดวงใจ
"เพื่อความสัมพันธ์อันแนบแน่นของเรา และเพื่อการจาก ที่อาจยาวนานกว่าเราจะได้มาพบกันอีก หวังว่าข้อความข้างหลังภาพนี้พอจะเตือนใจสายได้บ้าง"

สัญญาดั่งเสียงลม
ใบไม้สีน้ำตาลถูกลมพัดเป่าปลิดขั้วจากต้นซึ่งขึ้นอยู่บริเวณนั้นให้ปลิวร่วงลง มาใกล้ ๆ กับที่คนทั้งสองยืนอยู่ สัญชัยก้มลงมองใบไม้ด้วยหัวใจสั่นไหว ก่อนจะกล่าวออกมาด้วยน้ำเสียงล้าแรง
"ผมลาราชการมาเพื่อพักผ่อน รักษาตัว อีกสอง-สามวันก็จะครบกำหนด ต้องรีบกลับกรุงเทพ งานที่นั่นกำลังรออยู่"

ใบหน้าหญิงสาวสลดวูบ น้ำเสียงที่หลุดลอดมาเหมือนไม่คาดฝันกับเรื่องราวที่รับรู้
"หรือคะ" ใจหายวูบ อดถามมิได้ "แล้วสัญชัยจะกลับมาที่นี่อีกไหมคะ?"
"กลับมาซีครับ" เขารีบตอบ "ต้องกลับมาแน่นอน หัวใจผมอยู่ที่นี่"
สายตาที่จ้องมองหญิงสาวเหมือนจะบอกอะไรบางอย่าง สายทิพย์ไม่กล้าสบสายตากับเขา แสร้งมองไปทางนกเล็ก ๆ สองตัวที่คลอเคลียกันอยู่บนกิ่งไม้ใกล้ ๆ นั้น

"จะกลับมาเมื่อไหร่ ?" ถามอีกครั้งเหมือนจะคาดคั้น
สัญชัยลังเล เหมือนมีอะไรบางอย่างที่ยากแก่การตัดสินใจ แต่ในที่สุดก็ให้สัญญา
"ก่อนสิบสามเมษายน ผมจะกลับมาเล่นสงกรานต์กับสายที่นี่" เขาเอื้อมมือไปจับปลายนิ้วของเธอ บีบเบา ๆ
"คอยผมนะ" พูดเหมือนขอความมั่นใจ
หัวใจสายทิพย์สั่นไหว หลุดปากออกมาแผ่วเบา
"ค่ะ สายจะคอย" 

ฝากไว้ด้วย...หัวใจดวงนี้
ต่างนิ่งเงียบกันไปชั่วขณะ ได้ยินแต่เสียงลมที่พัดวู่หวิว นกเล็ก ๆ ระเริงร้องอยู่ในละเมาะไม้ใกล้ ๆ นั้น ไกลออกไป – บ้านของสายทิพย์ตั้งตระหง่านอย่างสงบอยู่ท่ามกลางดงมะพร้าว หลังคาสังกะสีสะท้อนแสงจนนัยน์ตาพร่าพราย

สัญชัยลดสายตาลงจากสิ่งเหล่านั้น และเป็นขณะเดียวกับที่หญิงสาวเงยหน้าขึ้น ตาต่อตาสบกัน แล้วเขาก็ได้เห็นรอยยิ้มที่บอกถึงความรู้สึกจากส่วนลึกของหัวใจ สายทิพย์บอกเขาด้วยสำเนียงค่อนข้างเบา
"สัญชัย คอยสายอยู่ที่นี่สักครู่นะคะ" เห็นสัญชัยจ้องมองสงสัย เธอรีบบอกเหตุผล "สายจะกลับไปที่บ้าน ครู่เดียวเท่านั้นค่ะ เดี๋ยวสายจะกลับมาหาสัญชัย"

"ไปทำไม ?"
"ธุระบางอย่าง รอนะคะ สายไปล่ะ"
ผละออกไปอย่างรวดเร็ว
สัญชัยมองตามหลังร่างโปร่งปราดเปรียวนั้นไปจนลับตา

มีอะไรหลายอย่างที่น่ารักรวมอยู่ในตัวของเพื่อนสาวตาคมดำขลับคนนี้ ยามใดได้พบ – ใกล้ชิดกับเธอ เขาไม่อยากนึกถึงอดีตอันมีแต่ความเจ็บปวดรวดร้าวและทุกข์ทรมาน ไม่อยากคิดถึงอนาคตซึ่งมีแต่ความมืดมิดเหมือนถูกกักขังอยู่ในห้องทึบ สัญชัยอยากมีแต่ปัจจุบันอันเปี่ยมล้นไปด้วยความสุขสดชื่นเพราะมีสายทิพย์ อยู่ใกล้ ๆ

เขาถอนหายใจ ทรุดตัวลงนั่งที่โคนมะพร้าว คอยสายทิพย์ด้วยหัวใจว้าวุ่นสับสน
สิบนาทีผ่านพ้นไปอย่างเชื่องช้า สายทิพย์จึงกลับมาพร้อมภาพถ่ายขนาดโปสการ์ดใบหนึ่ง
มือซึ่งถือภาพถ่ายและปากกาสั่นระริก เอ่ยถามสัญชัยด้วยเสียงเหนื่อยหอบ ค่อนข้างประหม่า

"ภาพถ่ายสายเอง ขอมอบให้สัญชัยเป็นที่ระลึก แต่เขียนสลักข้อความว่าอย่างไรดีคะ? "
สัญชัยมองใบหน้าสีชมพูเปล่งปลั่งเพราะแรงฉีดของโลหิต อย่างตื่นตลึง ตอบเสียงเบา
"เขียนตามที่หัวใจของสายอยากจะบอก"

เธอก้มหน้า ใจเต้นระทึก เม้มริมฝีปากนิ่งงันอยู่ครู่ใหญ่ ในที่สุดก็ตัดสินใจสลักอักษรลงหลังภาพด้วยลายมือเรียบง่ายสวยงาม
"แด่สัญชัย มิตรใหม่ที่สายพอใจที่สุดค่ะ"
เพียงสายทิพย์ยื่นภาพนั้นให้เขา สัญชัยรีบรับเอามาทาบที่หน้าอกเบื้องซ้ายซึ่งหัวใจกำลังไหวระริก พร้อมกล่าวช้า ๆ ชัดถ้อยชัดคำจากส่วนลึกของหัวใจ

"...แม้เพียงภาพซาบซึ้งตรึงใจแล้ว
ถึงดวงแก้วแววฟ้าค่านับแสน
มาขอแลกแปลกปลอมไม่ยอมแทน
จะหวงแหนภาพสายจวบวายปราณ"

จนกว่าจะพบกันอีก
สายทิพย์สีหน้าแดงระเรื่อ หลบสายตา สะเทิ้นเอียงอาย
"อย่าให้ถึงอย่างนั้นเลย" บอกพร้อมรอยยิ้มประทับใจ

"ผมจะรักษาภาพของสายและคำพูดของผมเอาไว้ชั่วชีวิต"
"ขอบคุณค่ะ สายก็จะรักษาภาพถ่ายของสัญชัยไว้ให้ดีที่สุดเช่นเดียวกัน" สัญญาด้วยเสียงสั่นพลิ้ว
"เท่านั้นหรือ ?" เขาซัก นัยน์ตาเป็นประกาย

"จะไม่ลืมสัญชัย มิตรใหม่ที่น่ารักของสายด้วยค่ะ" รอยยิ้มที่ระบายไปทั่วใบหน้า ดวงตาที่ใสซื่อ สร้างความประทับใจให้สัญชัยสุดพรรณนา
"หมดแค่นี้เอง ?" พยายามจะหยั่งลึกลงไปอีก

"ค่ะ ... " เป็นเสียงที่เบา บาง และจางหายไปกับสายลม
"แล้วหัวใจของผมที่ฝากเอาไว้ ..." น้ำเสียงของสัญชัยเกือบมิได้แตกต่างไปจากน้ำเสียงของสายทิพย์สักเท่าใดนัก หลุดปากออกไปแล้ว เขาระลึกได้ สะดุ้ง ใจหายวาบ เมื่อรู้สึกตัวว่าได้ทำสิ่งที่ไม่บังควร
ความเงียบแผ่ซ่านไปทั่วบริเวณนั้น

สัญชัยอดมีความหวังมิได้ว่า สิ่งที่กำลังคุกคามชีวิตเขาอยู่นั้นจะต้องพ่ายแพ้แก่เทคโนโลยีสมัยใหม่ที่ โลกกำลังก้าวหน้าไปอย่างรวดเร็วอย่างไม่มีอะไรหยุดยั้งได้ เขาจึงตัดสินใจทำลายความเงียบ
"หัวใจของผม ผมมอบให้สายเพียงคนเดียว ไม่คิดจะเอาคืนมาอีก" เขาบอกหนักแน่น เอื้อมมือไปจับมือหญิงสาวมากุมไว้ ทะนุถนอม "สายกรุณาเก็บมันไว้ให้ดี ช่วยทะนุถนอมมันด้วยนะ"

ต่างเงียบเสียงกันไปอีกครั้ง ทั้ง ๆ ที่หัวใจกำลังเต้นระทึก โดยเฉพาะสัญชัย หัวใจเต้นแรงจนน่ากลัว เขาบีบมือเธอเบา ๆ สายทิพย์โลหิตฉีดแรง ร้อนวูบวาบไปทั่วร่าง เธอค่อย ๆ แกะมือของเขาออก
"สายจะไม่จากสัญชัยไปที่ไหนอีกค่ะ" แม้จะไม่ดังนักแต่สัญชัยได้ยินเสียงนั้นชัดเจน เขาค่อย ๆ ปล่อยให้มือเธอมีอิสระอย่างแสนเสียดาย

"ขอโทษ ลืมตัว..."
"ค่ะ ลืมตัว ... " รอยยิ้มที่ระบายทั่วใบหน้าเนียนงามทำให้สัญชัยมองซึ้ง มีความสุขบอกไม่ถูก
ความเงียบปกคลุมทั่วบริเวณนั้นอีกครั้ง ได้ยินนกเล็ก ๆ ส่งเสียงร้องจิ๊บ ๆ อยู่ที่ชายป่า สายลมโชยพัดเป็นครั้งคราว เหมือนจะช่วยหอบเอาความคิดของสองหนุ่มสาวไปรวมกันไว้ ณ ที่เดียวกัน
สัญชัยมองสายทิพย์ด้วยสายตาเปี่ยมประกายแห่งความรัก ต่างยิ้มให้กันอย่างเก้อเขิน

เหมือนนึกอะไรขึ้นมาได้ สีหน้าของสายทิพย์สลดวูบ พร้อมเสียงพึมพำอ่อนระโหยจนผู้ฟังรู้สึกใจหายตามไปด้วย
"พรุ่งนี้ สัญชัยต้องเดินทางกลับกรุงเทพ"
"ครับ หัวใจผมที่ฝากไว้สายช่วยรักษาให้ดีนะ เดือนเมษายนผมจะกลับมาที่นี่อีกครั้งหนึ่ง"
"ค่ะ สายจะคอย" คำสัญญาหนักแน่น "สัญชัยอย่าลืมสายนะคะ"


ขบวนรถด่วน สุไหงโก – ลค...กรุงเทพ ค่อย ๆ เคลื่อนตัวออกจากสถานีโคกโพธิ์(ปัตตานี)อย่างเชื่องช้า สายทิพย์ยืนโบกผ้าเช็ดหน้าจนกระทั่งใบหน้าของสัญชัยค่อย ๆ เลือนหาย ไม่ช้านัก...โบกี้สุดท้ายก็ลับหายไปจากสายตาของทุก ๆ คน คงทิ้งไว้แต่รางเหล็กคู่ขนานยาวเหยียดไปสุดสายตาอยู่เช่นนั้นเหมือนวันที่ แล้ว ๆ มา

สายทิพย์มองเหมือนจะตั้งปัญหากับหัวใจเธอ แต่ก็ไม่อยากคิดอะไรให้มากไปกว่า เธอเริ่มต้นคอยสัญชัยแล้วตั้งแต่วินาทีแรกที่รถไฟเคลื่อนตัวออกจากสถานีนั่น เอง
สายทิพย์พยายามเร่งให้คืนวันผ่านไปโดยเร็ว

สิ้นเดือนมีนาคม เธอลุกขึ้นตั้งแต่ตอนเช้าตรู่เพื่อจะดึงปฏิทินแผ่นสุดท้ายซึ่งพิมพ์ตัว เลขบอกเป็นเครื่องหมายเอาไว้ว่า วันที่ ๓๑ มีนาคมนั้นให้หลุดออกไป ขณะเดียวกันก็มองตัวเลขของเดือนใหม่ด้วยจิตใจระทึก

วันที่ ๑ เมษายน – เออ ช่างเป็นวันเริ่มต้นของเดือนที่มีความหมายต่อเธอกระไรเช่นนั้น
ตลอดทั้งวัน สายทิพย์อดมิได้ที่จะสำรวจดูความบกพร่องของบ้านเรือน ซึ่งแม้จะได้จัดไว้อย่างดีแล้วก็ตาม เธอไม่ต้องการให้เขามาเห็นหรือพบกับสิ่งที่ไม่สดชื่นในวันแรกของการได้มาพบ กัน พร้อมกันนั้นก็คอยเงี่ยหูฟังเสียงเครื่องยนต์ของรถประจำทางที่จะมาหยุดส่งคน โดยสารที่หน้าบ้านของเธอด้วย
สัญชัยมาตามสัญญา แต่ ...

เกือบจะไม่เหลือริ้วรอยใดไว้ให้เห็นว่าเขาเป็นสัญชัยคนเดิม
เพียงเห็นภาพของเขาเท่านั้น สายทิพย์ตกตะลึง พอได้สติ เธอผวาเข้าไปกอดเขาแนบแน่น มิไยว่าเบื้องหลังของสัญชัยจะมีผู้หญิงร่างสะคราญคนหนึ่งก้าวตามมา

สัญชัยเบือนหน้าออกไปทางหนึ่ง พยายามผลักดันสายทิพย์ให้ถอยห่างออกไป แต่สายทิพย์กำลังลืมตัว กอดแนบแน่นจนสัญชัยมีอาการเหนื่อยหอบ ออกคำสั่งด้วยเสียงแหบเครือ
"เพื่อนรัก ช่วยออกห่างจากตัวผมเดี๋ยวนี้"

สายทิพย์เงยหน้ามองดูเขา แล้วผละออกไปอย่างงุนงง
"สัญชัย" หลุดเสียงออกมาอย่างแผ่วเบา
"เราไม่สามารถเป็นของกันและกันได้อีก" สัญชัยบอกด้วยน้ำเสียงกระเส่าและสั่นพร่า เขาเดินไปยังอีกมุมหนึ่งของห้อง นั่งลงบนเก้าอี้นวมด้วยท่าทางอิดโรย ใบหน้าเผือดซีด
"สัญชัย ... " สายทิพย์เอ่ยเรียกอีกครั้ง น้ำตาไหลพราก
สัญชัยฝืนยิ้มที่มุมปากนิดหนึ่ง สายตาเหลือบมองปฏิทิน

"วันที่หนึ่งเมษายน ผมมาตามสัญญา แต่... " เสียงเขาขาดหายไปอย่างอิดโรย แสดงความเหน็ดเหนื่อยออกมาให้เห็น "ที่รัก เราไม่ควรพบกันเลย"
ใบหน้าที่ซีดอยู่แล้วยิ่งเผือดลงไปอีก

"เทวดาท่านดลให้เรามาพบเพื่อที่จะพรากไปจากกันเท่านั้น" สายตาเขาปรายไปทางหญิงสาวที่ติดตามมา พลางพูดกับสายทิพย์ด้วยน้ำเสียงที่ชัดเจน
"สายไม่ต้องคอยผม เราหมดโอกาสที่จะได้แต่งงานกันแล้ว"
"สัญชัย !" สายทิพย์อุทาน มือทาบอก "หมายความว่า ... "

"ครับ ... " สัญชัยรับคำด้วยความปวดร้าวใจ กรามบดเข้าหากันแน่น เขาต้องใช้ความอดทนเหลือที่จะกล่าว เมื่อพูดว่า "ผมมาเพื่อจะคืนหัวใจ ... "
สายทิพย์ปล่อยโฮออกมา สัญชัยเองเกือบกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่ เขาเบือนหน้าออกไปอีกทาง คำพูดขาดเป็นห้วง ๆ "ผู้หญิงที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ผมนี้คือน้องสาวร่วมสายโลหิตของผมเอง เธอมาเป็นเพื่อนเดินทาง คอยดูแลผม เพราะผมเป็นมะเร็งในปอดระยะสุดท้าย..."


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Elegant Rose - Working In BackgroundElegant Rose - Working In BackgroundElegant Rose - Working In Background