กำหนดการย้ายที่ทำงานของคุณพ่อน่าจะเป็นปีที่แล้วแต่กลับต้องมาเป็นโมฆะไป..
พอผ่านไป ๑ ปี ตอนนั้นฉันต้องขึ้นมัธยม ๒ ก็ดันมามีคำสั่งให้ย้ายอีก
เป็นช่วงเดียวกับที่ คนรู้จักเขาอาศัยอยู่ในเมืองนั้นเขาจะย้ายออกและครอบครัวของฉันก็ได้ย้ายเข้าไปอยู่แทน
ประจวบเหมาะกับที่นั่นมีโรงเรียนสตรีอยู่แห่งหนึ่งที่ตั้งไม่ไกลจากที่พักนัก
ฉัน จึงต้องยื่นใบสมัครไปที่นั่น โรงเรียนนั้นเขากำหนดให้มีนักเรียนในแต่ล่ะชั้นเรียนมีไม่เกิน ๓๕ คนและจะเป็นด้วยเหตุบังเอิญหรืออะไรก็สุดแล้วแต่ล่ะ น.ร ห้อง A ขาดไปคนหนึ่ง ฉันจึงได้รับอนุญาตให้เข้าไปที่ห้องนั้นแทน
ฉัน รีบลุกขึ้นตั้งแต่ไก่ยังไม่ทันโห่เพราะความตื่นเต้นกับสถานที่เรียนแห่งใหม่ มากเตรียมโน่นเตรียมนี่ตั้งแต่เช้า คุณแม่ก็ลุกขึ้นมาเตรียมอาหารเช้าให้คุณพ่อและฉันตามปรกติ
อากาศในเช้าวันนี้กับบ้านหลังใหม่ที่ในเมืองช่างสดชื่นเหลือเกินเมื่อคืนฝนตกปรอยๆ ทำให้นอนกันแต่ช่วงค่ำๆ ตื่นแต่เช้าอย่างมีความสุข
เอ๊กอีเอ๊กเอ๊กๆ เอ๊กอีเอ๊กเอ๊กๆ
ไก่ ขันรับตะวันยามเช้าแล้ว เสียงกุ๊กๆ กั๊กๆ สงสัยคุณพ่อจะลุกขึ้นแล้วหล่อนเตรียมเข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำก่อนคุณพ่อเพราะ ว่าท่านจะตื่นมาดื่มกาแฟก่อนเข้าห้องน้ำเสมอเราจะสลับกันได้อย่างลงตัวและ ไม่เคยมีปัญหาเรื่องแย่งห้องน้ำกันยามเช้าสักครั้งเดียว
แม่ ของหล่อนเป็นคนละเอียด ท่านจะคอยสังเกตว่าช่วงไหนลูกต้องไปไหนทำอะไรสามีต้องทำอะไรระหว่างที่ลูก จัดการตัวเองอะไรแบบนี้นี่คือความลงตัวที่ถูกจัดสรรมาอย่างดีแล้ว
เมื่อ ทุกอย่างเรียบร้อย ฉันเห็นคุณพ่อออกมาจากห้องน้ำฉันก็เตรียมรองเท้าของท่านและของตัวเองมาจ่อ หน้าประตูรอท่านแต่งตัวเสร็จก็มานั่งรอที่โซฟาหน้าทีวีหยิบหนังสือนิตยสาร ขึ้นมาอ่านฆ่าเวลา
“วี..วันนี้เป็นวันแรกตื่นเต้นไหมจ้ะกับโรงเรียน?”คุณแม่เดินมานั่งตรงข้ามพร้อมกระเป๋าของคุณพ่อที่วางใกล้ๆด้วย
ฉัน เงยหน้าจากหนังสือมองท่านยิ้มๆ ก่อนจะส่ายศีรษะ “ไม่เท่าไหร่ค่ะคุณแม่”ฉันอาจจะตอบท่านไม่ค่อยตรงความจริง เท่าไหร่ ทั้งๆที่ตื่นเต้นมากแต่พยายามระงับอาการนั้นสุดฤทธิ์
แอ๊ด...
คุณพ่อเสร็จล่ะ กลิ่นน้ำหอมอ่อนๆ ลอยตามตัวท่านมาด้วย สายตาคุณแม่มองยิ้มๆ
“อื่อหืม..คุณหล่อและหอมมาเชียวนะคะ”คุณแม่ร้องแซวด้วยแววตาล้อเลียนจนพ่อหล่อนยิ้มเหมือนจะเขิน..
“จริงหรือจ้ะ เอ๋วี..ลูกได้กลิ่นไหม? ”พ่อหันมาถามหล่อนเหมือนกับหาแนวร่วม
“คุณ พ่อน่ะหล่อในสายตาคุณแม่และวีเสมอแหล่ะค่ะ”หล่อนตอบยิ้มๆก่อนจะเห็นพ่อหอม แก้มคุณแม่ซ้ายขวาเช่นทุกครั้งที่คุณแม่เดินหิ้วกระเป๋ามาส่งที่รถ
“ไป นะจ้ะ สามีไม่อยู่อย่าเที่ยวส่งสายตาเจ้าชู้ให้พระเอกในจอล่ะ”พูดเท่านั้นก็รีบพา ร่างเปิดประตูขึ้นรถทันทีคงจะหลบค้อนวงใหญ่ของคุณแม่ที่ยืนตาขวางไม่จริงจัง กับรอยยิ้มกว้างที่โดนแซว
“คุณแม่ หนูไปก่อนนะคะ”หล่อนยกมือทำความเคารพมารดาก่อนจะเดินไปขึ้นรถตามบิดาที่สตาร์ทเครื่องรอ
ระหว่างนั่งมาในรถวีรนุชมองตามสองข้างทางที่มีทิวไม้ยืนต้นร่มรื่นด้วยความชื่นชมกับการพัฒนาของเมืองนี้
“สวย ไหมลูก? ”หันมามองใบหน้าหล่อน “นอนหลับสบายดีไหมเมื่อคืนน่ะ”บิดาชวนสนทนาก่อนจะเลี้ยวรถเข้าข้างทางเพื่อ จอดเนื่องจากช่วงเช้าส่วนมากรถจะเยอะ
บิดาพาหล่อนเดินเข้าไปด้านในที่มีเพื่อนๆต่างจับกลุ่มคุยกัน บางคนก็มองมาที่หล่อนและบิดา บางคนก็ไม่สนใจ
“หนูๆ ห้องผู้อำนวยการอยู่ไหนลูก? ”บิดาถามเพื่อนๆที่ยืนอยู่บริเวณนั้น
“ฮะ..คุณลุงเดินตรงไปในสุดห้องซ้ายมือครับผม”เขาตอบแล้วมองมาทางหล่อนพร้อมรอยยิ้มทักทาย
“จ้ะ ขอบใจนะ ไปลูกวี”วีรนุชมองเขาและค้อมศีรษะให้นิดหนึ่งก่อนจะเดินตามบิดา
โดยไม่รู้เลยว่า นั่นเป็นการเปิดฉากในการเจอเรื่องราวสยองขวัญเข้าแล้ว
*****************
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ
เงาบุหงา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น