Translate

วันอังคารที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2556

*****ดวงตาอาฆาต ๖*****
















“ช่วยบอกฉันหน่อย  ว่าเกิดอะไรขึ้นที่นี่”

วีรนุชถามอย่างร้อนใจ ใบหน้าส่อแววกังวลอย่างเห็นได้ชัด

“บอกเขาไปเถิดหัวหน้า”รตาที่เดินตามปภาวดีมาอีกคนออกความเห็น

“ฮืม..ฉันเองก็ไม่ค่อยรู้หรอก เคยแต่ได้ยินมาว่า เมื่อหลายปีก่อน มีนักเรียนตายที่นี่ หลังจากนั้นก็เกิดอะไรตามมาแปลกๆ เสมอ”ปภาวดีหยุดเล่าต่อ ก่อนจะสอดส่ายสายตาไปรอบๆ ด้วยสีหน้าท่าทางหวาดหวั่น ใบหน้าซีดนิดๆ เมื่อเห็นบรรยากาศรอบๆห้องอาบน้ำมัวๆ

“อย่างที่โต๊ะริมหน้าต่าง พอถึงชั่วโมงที่หกที่ไร คนที่นั่งโต๊ะตัวนั้น ก็จะถูกมือลึกลับแตะที่บ่า บ้างก็ดึงผมและหยิกบนผิวจนแสบจี๊ดและสะดุ้งลุกขึ้นอย่างลืมตัว เลยไม่ค่อยมีใครนั่งตรงนั้น ตั้งแต่ฉันเข้ามาเรียนโรงเรียนนี้ โต๊ะตัวนั้นก็ว่างอยู่แล้ว”ปภาวดีพูดตามที่ตัวเองเจอและเห็น จนวีนุชเข้าใจ

ว่างตั้ง  ๖ ปีแล้ว

อา..อย่างนี้นี่เอง

“อาจารย์แต่ละท่านต่างก็ปิดปากเงียบ”ปภาวดีเล่าต่อ และหันมาจ้องหน้าหล่อนตรงๆ

“เธอเชื่อเรื่องผีไหม? ”ปภาวดีหยั่งเสียงถามออกไป

“ผีเหรอ? ฮื่อ  ! ฉันก็ไม่รู้เหมือนกัน โรงเรียนนี้ต้องมีอะไรบางอย่างแน่ๆ โต๊ะที่  ๔ ริมหน้าต่างตัวนั้น”วีรนุชพึมพำออกมาและตั้งข้อสงสัย

อากาศเริ่มเย็นไปทั่วบริเวณห้องมัวๆ แห่งนั้น จนทำให้รตาเดินเข้าไปเกาะแขนปภาวดีแล้วจับไว้แน่นอย่างหวาดๆ

“เราออกไปจากห้องนี้ก่อนดีไหม? ”รตากระซิบกับเพื่อนทั้งสองและได้รับการตอบรับทันที
วีรนุชคว้าเป้ขึ้นใส่บ่าเดินตามเพื่อนๆ มาติด แต่ก็อดเสียวสันหลังไม่ได้

------------------------------

เมื่อออกมาที่ลานกว้างหน้าตึกอาบน้ำ ปภาวดีกระซิบบอกเพื่อน  “ที่ห้องบี มีเพื่อนสัมผัสกับวิญญาณได้ บางครั้งเขาฝัน และความฝันของเขาก็เป็นความจริงด้วยนะ”

“เธอสองคนรู้จักผีถ้วยแก้วหรือเปล่า เคยเล่นไหม? ถ้าเราไปหาศิลาแล้วให้เธอพาทำ จะมีวิญญาณมาที่ถ้วยแก้วทุกครั้งนะ”รตาพูดถึงเพื่อนที่สัมผัสวิญญาณคนนั้นด้วย

“จริงด้วย ลองให้ศิลาพาเล่นผีถ้วยแก้วสิ เผื่อพวกเราจะได้รู้เรื่องอะไรมากขึ้นไง”ปภาวดีเห็นด้วยทันที ทั้งสองมองไปที่วีรนุช จึงเห็นว่าเพื่อนมีท่าทางคิดหนัก ก่อนจะพยักหน้า

“งั้นตอนเลิกเรียน เราค่อยไปหาเธอกัน ตอนนี้รีบกลับเข้าห้องเรียนก่อนแล้วกัน วีรนุชเธอก็กลับไปนั่งที่ตะหลังสุดแถวกลางก่อนนะ ไป”ปภาวดีสรุปแล้วเดินนำเพื่อนทั้งสองเข้าห้องเรียน

๑๕.๓๐  น ที่ห้องบีตึกชั้นสอง

เมื่อเลิกเรียน ทั้งสามก็เดินลงไปที่ชั้นสอง ก็เห็นว่าเพื่อนเพิ่งจะหยิบกระเป๋าเตรียมตัวกลับ ปภาวดียกมือห้ามเพื่อนให้หยุดรอ แล้วตัวเองก็เดินไปหาศิลาเพื่อนต่างห้อง

“เฮ..ศิลาหวัดดีจ้ะ เรามีเรื่องรบกวนหน่อยนะ”ปภาวดีร้องทักทายเพื่อนด้วยสีหน้าราบเรียบ แล้วยืนคุยกันเบาๆ สายตาของศิลามองมาที่วีรนุชบ่อยครั้งในระหว่างนั้น

สักครู่..ทั้งสองก็เดินกลับมาที่รตาและวีรนุชยืนอยู่

“หวัดดีวีรนุช ฉันศิลา พงศ์เพชร ยินดีที่ได้รู้จักจ้ะ”ศิลาแนะนำตัวเองกับวีรนุชหลังจากที่พอทราบเรื่องจากปากเพื่อนมาแล้ว

“เช่นกันจ้ะ”วีรนุชยิ้มตอบรับไมตรี

“เราไปที่ห้องเกิดเหตุกันเถอะ”ศิลาชวนทั้งสาม และปภาวดีพยักหน้าพร้อมเดินนำ
เมื่อมาถึงหน้าห้องเงียบสนิท บรรยากาศรอบๆ แดดอ่อนๆ ขุ่นๆ ปภาวดีเปิดประตูห้องออก ข้างในมือสนิทเมื่อปิดหน้าต่างทุกบาน ศิลาล้วงมือหยิบเทียนไขในถึงกระดาษที่หิ้วออกมายื่นส่งให้เพื่อน

“ระยะหลังๆ มานี่ ฉันรู้สึกกลัว เลยไม่ค่อยได้เล่นเท่าไหร่”ศิลาออกตัวกับเพื่อน

“แล้วเราจะเรียกกันที่ตรงจุดไหนดีล่ะศิลา? ”ปภาวดีหันมาถามเมื่อจุดเทียนแล้วพาเพื่อนๆ เดินเข้าไปด้านใน

“ที่โต๊ะ  ๔ ริมหน้าต่างไง”ศิลาเสนอ

ทั้งสามคนตกใจ ใบหน้าซีดเผือด ต่างหันมามาองหน้ากันโดยไม่ได้นัด ยิ่งวีรนุชด้วยแล้ว รายนี้ถึงกับอ้าปากกว้างค้างเติ่งอยู่อย่างไม่คาดคิด เมื่อเพื่อนชี้นิ้วไปที่โต๊ะตัวนั้น

“เงียบดี เลิกเรียนแบบนี้ ไม่มีใครอยู่นี่ล่ะดีมาก เดี๋ยวพอเสร็จแล้วฉันจะไปส่งทุกคนเอง”ปภาวดีบอกเพื่อนๆ


“ใช้โต๊ะตัวปัญหานั่นแหล่ะ”ศิลาย้ำอีกครั้ง  “ฉันรู้สึกว่ามีวิญญาณอยู่แถวๆ นี้นะ ดูสิ..เห็นไหม? โต๊ะตัวนั้นมันมีบรรยากาศมืดครึ้มจะตาย ไม่น่าแปลกกันบ้างเหรอ? ”ศิลาเอ่ยออกมาเท่านั้นทำให้รตากระโดดผลุงไปยืนตรงกลางเพื่อนๆ ทันที ใบหน้าถอดสีจนเผือด“เอาล่ะ  เรามาเริ่มกันเถอะ เวลาเรามีน้อยนะ วีรนุชเธอไปนั่งเก้าอี้ตัวนั้น”ศิลากำชับและนิ้วก็ชี้ไปด้วย

“ห๊า  ! ฉะ ฉันเหรอ? ”ย้ำถามกับเพื่อนพร้อมทั้งใช้นิ้วจิ้มที่อกตัวเอง

“ใช่  เธอ”ศิลาพยักหน้า

“แต่ว่า..? ฉันรู้สึกกลัวนะ”วีรนุชสารภาพ

“ไม่เป็นไรน่า มีฉันอยู่ด้วย และรตากับปภาวดีอีก อย่ากลัวไปเลย  ไปเถอะ”ศิลาบอกให้เพื่อนคลายความกลัว.. “ฟังนะ..วิธีของฉันคือ  ๑  ต่อ  ๑”ก้มลงหยับแผ่นตารางกับเหรียญขึ้นมาจากถุง

“ถ้าหากว่าแถวนี้มีวิญญาณจริงๆ วิญญาณจะต้องออกมาแน่ๆ ”สีหน้าศิลาที่พูดจริงจัง วีรนุชเหงื่อชื่นตามหน้าผากมน ใบหน้ามีแววกังวลขึ้นมาอีกอย่างชัดเจน

“ปภาวดี ถ้าหากว่ามืดแล้วในระหว่างที่เล่นอยู่ ห้ามเปิดไฟนะ”กำชับเพื่อนที่นั่งใกล้ๆ ขนาบข้างด้วยรตาอีกครั้ง

“เข้าใจแล้วจ้ะ”ปภาวดีรับคำแข็งขัน

รตานั่งใกล้ๆ เผลอหายใจแรงๆ ศิลามองหน้านิดหนึ่ง แต่ไม่พูดอะไร

“เราจะเริ่มละนะวีรนุช ทำตามฉันนะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นห้ามเอามือออกจากเหรียญเข้าใจนะ”ศิลาเตือนความจำให้เพื่อนอีกรอบ ก่อนจะใช้นิ้วแตะไปที่เหรียญ และวีรนุชก็เอามือแตะตามอย่างว่าง่าย


โปรดติดตามตอนต่อไป
เงาบุหงา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Elegant Rose - Working In BackgroundElegant Rose - Working In BackgroundElegant Rose - Working In Background