Translate

วันพุธที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2556

*****ดวงตาอาฆาต ๗*****

ความเดิมตอนที่แล้ว

“เราจะเริ่มละนะวีรนุช ทำตามฉันนะ ไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นห้ามเอามือออกจากเหรียญเข้าใจนะ”ศิลาเตือนความจำให้ เพื่อนอีกรอบ ก่อนจะใช้นิ้วแตะไปที่เหรียญ และวีรนุชก็เอามือแตะตามอย่างว่าง่าย













“ท่านวิญญาณ หากท่านอยู่แถวๆ นี้ ขอเชิญมาสถิตยังเหรียญนี้ด้วยเถิด”
สิ้นคำของศิลาก็ไม่มีอะไร แสงเทียนยังคงส่องแสงสว่างนวลตา

กึก..

คุณพระช่วย!  เหรียญเริ่มหนักทั้ง ๆ ที่หล่อนและศิลาเพียงแค่แตะไว้เฉยๆ

“อุ๋ย..! ขยับแล้ว มันเคลื่อนที่แล้ว” เสียงของรตากับปภาวดีที่จดจ้องร้องบอกเบาๆ

“เป็นไปได้ยังไงกัน?”วีรนุชเอ่ยออกมาบ้าง

“จุ๊ๆ เงียบ”ศิลาดุเบาๆ

รตาและปภาวดีต้องรีบกลืนคำที่อยากเปล่งออกมา ส่วนวีรนุชเหงื่อตกใบหน้าเริ่มถอดสี

“กรุณาตอบคำถามของพวกเราด้วยเถอะ” ศิลาวิงวอน “ท่านเป็นวิญญาณคนหรือไม่”
คนทั้งสี่กลั้นใจรอคำตอบ สักครู่เหรียญเริ่มขยับพานิ้วทั้งสองไปตามช่อง

“ใช่”

รตาหันหลังมองกลับไปยังประตู ขณะนั้นแดดอ่อนเริ่มเปลี่ยนเป็นแดดผีตากผ้าอ้อมแล้ว ความวังเวงเริ่มปกคลุมไปทั่วห้อง ก่อนจะเบนสายตากลับมาที่เดิม


“เป็นคนไทยหรือเปล่า?”ศิลาถามต่อ

เหรียญลากไปที่ช่อง“ใช่”

“เป็นหญิงหรือชาย? ”ศิลาถามต่ออีก

เหรียญลากทั้งสองไปที่ตาราง  หญิง

“อายุเท่าไหร่?”สิ้นคำของศิลาเหรียญเริ่มขยับเร็วขึ้น และลากไปที่เลข ๑ กับเลข ๗

“อะไรกัน ! ๑๗ ปีเองรึนี่ แล้วชื่ออะไรล่ะ? ”เหรียญขยับเร็วเมื่อพทั้งสองไปที่ช่องอักษร

บนแผ่นตารางทีล่ะตัว

“นิลนาถ ปานน้อย”ศิลาอ่านตามที่รตาจดให้ท่ามกลางแสงเทียนเงียบๆ

“ใช่”ฟังคำตอบนั้นแล้วทุกคนมองหน้ากัน

ทว่า! ยังไม่ทันจะถามต่อ เหรียญก็เริ่มขยับ

“เหรียญมันขยับเอง”

วีรนุชตกใจกับภาพตรงหน้า สายตาจับจ้องไปที่เหรียญ ที่ศิลากับหล่อนวางนิ้วลงด้วยกัน แล้วลากพาไปโน่นมานี่ตามอำเภอใจ

รตากับปภาวดีก็ตั้งหน้าตั้งตาจดอักษรตามอย่างระทึก

“ฉันเหงา ฉันอยากมีเพื่อน”เหรียญยังขยับบอกไปเรื่อย

“เหงาหรือ? ”ศิลาทวนถามด้วยใบหน้าซีดเผือด

“เพื่อน เพื่อน! ”เหรียญขยับต่อ

วีรนุชทำตาโต เหงื่อชุ่มมืออีกข้าง ใจเต้นเหมือนกลองมารัวในอกไม่แพ้เพื่อนสองคนนัก

“เพื่อน เหงา หมายความว่าไงกัน?”วีรนุชกระซิบถามศิลาที่เงยหน้ามองสบตามาพอดี

“ไม่รู้สิ”คำตอบกลับมานั้นก็งุนงงไม่ต่างกัน  “ท่านนิลนาถ ท่านตายมากี่ปีแล้วล่ะ”ศิลาถามด้วยความอยากรู้

เหรียญขยับไปตามคำถาม  “๖  ปีแล้ว  ตั้งแต่วันที่  ๖ เดือนตุลา”

“ทำไมถึงตายล่ะ ในเมื่ออายุท่านยังน้อยนัก แค่  ๑๗ เอง”ปภาวดีถามมั่ง

เหรียญพาไปที่อักษร  “ป่วย”คราวนี้เหรียญเริ่มขยับช้าลง  “ที่นี่”

เมื่อเหรียญหยุดตรงอักษรคำนั้น ทั้งหมดก็ต่างเงยหน้าขึ้นจ้องมองกันอย่างไม่ได้นัดหมาย

ตุบ ตุบ

เสียงฝีเท้าใคร?

ปัง...

ประตูถูกกระชากปิดอย่างแรง

“โอ๊ะ!.”

เสียงอุทานดังมาจากริมฝีปากบางของวีรนุช ที่แทรกมาพร้อมกับประตู แสงสลัวของเทียนไขที่สาดส่อง ทำให้รู้สึกเหมือนมีเงายืนทาบอยู่กับแผ่นหลัง ความยะเยือกเริ่มเกาะกุมหัวใจ ห้องทั้งห้องเงียบกริบ ไร้สรรพเสียงใดๆ จะมีก็เพียงแค่ลมหายใจของทั้งสี่คนเท่านั้น

หญิงสาวพยายามตั้งสติให้มั่นคง

“ไม่ต้องตกใจนะ แค่เสียงธรรมดาน่ะ มักจะเกิดขึ้นในที่ที่มีวิญญาณอยู่เสมอ”ศิลากระซิบบอกเพื่อนเบาๆ ก่อนจะละสายตาไปที่เหรียญ

“เสียงฝีเท้าที่ดังด้านนอกนั่นเป็นท่านใช่ไหม? ”ศิลาถามต่อ

เหรียญขยับไป  “ใช่”แต่ยังขยับต่อไปแม้ไม่มีคำถาม

“นิลนาถ วีรนุชเพื่อนของฉัน”เหรียญขยับไปตามอำเภอใจ

“เพื่อนเหรอ? ละ แล้วทำไมต้องเป็นฉันล่ะ”ใบหน้าวีรนุชถอดสีจนซีดเผือด ขาเริ่มสั่น ประสาทเริ่มตึงเครียด เขม็งเกลียวขึ้น เส้นขมับปูดโปนจนเต้นระริกด้วยความกลัว

“หรือว่า..ท่านคิดจะครอบครอบร่างกายของวีรนุช?”ศิลาตั้งสติได้ถามต่อ  และเหรียญก็ลากไปที่อักษร

กึก..!

“ใช่”

“ว๊าย  !”เสียงของวีรนุชเปล่งออกมาด้วยความตกใจอีกรอบ

“เงียบๆ อย่าเอานิ้วออกนะ”ศิลากำชับเสียงเครียด อกใจระทึกไปหมดกับคำตอบกลับมา  “ทำไม เพราะท่านเหงาหรือ?”

เหรียญเริ่มลากไปอีก  “ใช่”

“ท่านต้องการตัววีรนุชเหรอ?”ศิลารุก

แต่...ต้องชะงัก เมื่อวีรนุชตะโกนและทะลึ่งร่างลุกพรวดขึ้นอย่างเร็ว เหมือนเป็นการให้ระงับทุกสิ่งลง ร่างกายนั้นสั่นสะท้านเหมือนลูกนกต้องลมหนาว

รตากับปภาวดียกมือปาดเหงื่อที่ชื้นตามหน้าผาก แล้วจ้องมองวีรนุชที่ยืนหอบจนตัวโยนด้วยความตกใจ

ทันใดนั้น...

ผลัวะ...?



โปรดติดตามตอนต่อไป
เงาบุหงา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Elegant Rose - Working In BackgroundElegant Rose - Working In BackgroundElegant Rose - Working In Background