Translate

วันอังคารที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

*****ดวงตาอาฆาต ๑๒*****


ความเดิมตอนที่แล้ว

นิลนาถตายแล้ว..!
มือสองข้างพาดไปบนโต๊ะใบหน้าที่ตะแคงข้างนั้นซีดขาวเผือดน้ำลายหยดย้อยออกมาเปื้อนเต็มแก้มและเส้นผมที่ปรกหน้ากลิ่นน้ำย่อยลอยออกมากับน้ำลายเหนียวอย่างคนสุขภาพไม่ดีคลุ้งไปทั่วห้อง


ตั้งแต่วันนั้นมาริญลดาก็เห็นวิญญาณอยู่บ่อยๆ จนเกือบจะเป็นโรคประสาทพ่อกับแม่เขาก็เลยตัดสินใจย้ายไปอยู่ที่อื่น
ครั้นเรียนจบริญลดาก็ได้ทำงานให้กับบริษัทฯ แห่งหนึ่ง แต่ทำได้ไม่นานเธอก็มาจบชีวิตลงด้วยอุบัติเหตุลื่นล้ม ศีรษะฟาดกับขอบอ่าง แต่ทีน่าสังเกตคือดวงตาที่เบิกโพลง และยังค้างอยู่ไม่ยอมปิด เธอตกใจอะไร?แต่ทุกคนก็หาสาเหตุไม่ได้”ปิ่นมณีเล่ามาถึงตรงนี้ด้วยน้ำเสียงละห้อยมือคว้าแก้วเครื่องดื่มบนโต๊ะมาจิบ
“งั้นก็แสดงว่า  วิญญาณคุณนิลนาถก็ยังอยู่ที่โรงเรียนนะสิคะ?”ศิลาถามอย่างคนช่างสังเกต แล้วยกนาฬิกาดูเวลาที่ปาเข้าไปค่อนบ่าย
“เอ่อ..! พวกหนูรบกวนเวลาของพี่มาพอสมควรแล้วต้องขอบพระคุณข้อมูลเพิ่มเติมและเครื่องดื่มมากๆ นะคะขอถือโอกาสนี้ลาเลยแล้วกันค่ะ สวัสดีค่ะพี่”ปภาวดียกมือไหว้พร้อมทั้งเอ่ยออกมาหลังจากที่เห็นเพื่อนดูนาฬิกาที่ข้อมือ และเจ้าของบ้านเงยหน้ามองข้างฝา
“จ้ะพี่ปิ่นก็มีธุระเหมือนกัน แล้วพวกเรามากันยังไงนี่?”ถามกลับบ้าง
“ศิลาเอารถมาค่ะแต่จอดหน้าปากซอยนี่เองพวกเราลากันอีกครั้งนะคะ”ทั้งหมดยกมือไหว้เจ้าของบ้านสาวอีกครั้งเมื่อเธอเดินมาส่งที่ประตู

-----------
เมื่อนั่งมาในรถทุกคนต่างก็เงียบ จนศิลาเอ่ยออกมา“ฉันว่าวิญญาณของคุณนิลนาถต้องอยู่ที่โรงเรียนและโต๊ะที่สี่ริมหน้าต่างตัวนั้นแน่ๆ”
“พวกเราจะทำอย่างไรกันต่อไปดีล่ะ?”รตาโพล่งถามมาบ้าง
“ขืนปล่อยไว้ไม่ดีแน่ๆเลย”ปภาวดีบอก
ทั้งสามมองหน้ากันแล้วหันไปทางวีรนุชที่นิ่งเงียบไม่ออกความเห็นใดๆ
“วี..! เธอคิดว่าไง? ”ศิลาถามตรงๆ
วีรนุชชำเลืองมองตอบเพื่อนๆที่กำลังรอฟังคำของหล่อน “พวกเธอไม่กลัวจะเจออะไรที่มันแปลกๆเหมือนคุณริญลดาบ้างหรือ?”สีหน้านั้นครุ่นคิดด้วยความกังวล
“งั้นเราต้องเรียกหมอผีมาทำการขับไล่วิญญาณออกไปแต่เราต้องหาหลักฐานก่อนว่า ในโรงเรียนของเรามีวิญญาณคุณนิลนาถยังวนเวียนอยู่จริงๆแล้วให้เพื่อนๆ ช่วยดู และเป็นพยาน”ศิลากล่าวด้วยใบหน้าราบเรียบเหมือนครุ่นคิดอย่างหนัก  ก่อนจะนำรถเข้าจอดข้างทางมือขาวบอบบางดีดเข้ากัน
“ป๊อก...! ได้การแล้ว”อุทานเสียงดัง เรียกความสนใจจากเพื่อนๆ
“อะไรหรือศิลาคิดอะไรออก”รตาถามด้วยความตื่นเต้นด้วย
“เราต้องถ่ายภาพวิญญาณเพื่อเอามาเป็นหลักฐานไง เข้าใจไหม? รูปถ่ายติดวิญญาณนะ”ตอบอย่างตื่นเต้น
“ถ้าเราถ่ายภาพวิญญาณของคุณนิลนาถได้นะอาจารย์จำรูญและทุกๆท่าน คงจะเถียงไม่ออกหรอก”ปภาวดีกล่าวบ้าง
“แล้วเธอคิดว่า มัน จะติดเหรอ? ศิลา”วีรนุชถาม
“วี..เธอไม่เคยได้ข่าวหรือไงที่ภาพถ่ายติดวิญญาณที่เป็นข่าวใหญ่ขึ้นหน้าหนึ่งไปแล้วน่ะ”ศิลาเท้าความให้เพื่อนที่นั่งมองด้วยดวงตาปริบๆ
“ตกลงตามนี้นะว่าไง ใครจะคัดค้านบ้าง?”ถามความเห็นกันอีกรอบสายตาจับไปที่ใบหน้าทีละคนช้าๆเมื่อสรุป
“งั้นพรุ่งนี้แปดโมงเราจะแวะรับเหมือนวันนี้เราจะไปหาลุงจำเริญเพื่อขอกุญแจ บอกลุงว่า เรามาเอาของที่ลืมไว้ด้วยกัน”ศิลากล่าวปิดท้ายก่อนจะเข้าเกียร์ออกรถขับต่อไปส่งเพื่อนๆ
“เดี๋ยววีรนุชก่อนแล้วตามลำดับบ้านใครใกล้เช่นเคยนะ”ปภาวดีบอกแทนเพื่อนคนขับ
-------------
รุ่งเช้าศิลาตื่นลุกขึ้นมาเตรียมกล้องจัดเป้และฟิร์ม ก้าวขาเดินออกไปหามารดาที่ห้องครัวเพื่อขอชุดปิกนิดขนาดย่อมๆก่อนเข้าไปอาบน้ำเมื่อจัดการตัวเองเรียบร้อยแล้ว หญิงสาวก็ไปโทรศัพท์หาเพื่อนระหว่างรตากับปภาวดีและถามว่าใครพร้อมแล้วบ้างจะได้แวะถูก ไม่ต้องมานั่งเสียเวลาคอย
เมื่อลงมาข้างล่างเห็นหลังมารดาไหวๆ ที่ประตูมารดาคงจะเดินไปส่งบิดาที่รถเหมือนเช่นทุกวัน แต่ศิลาก็เดินออกไปดู
ไม่มี...!
ขยี้ตาแรงแล้วมองใหม่...
เหมือนเดิม

โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ
ก้มกราบบ่อยๆจะช่วยลดความทระนงลงได้บ้าง

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Elegant Rose - Working In BackgroundElegant Rose - Working In BackgroundElegant Rose - Working In Background