ความเดิมตอนที่แล้ว
รุ่งเช้า ศิลาตื่นลุกขึ้นมาเตรียมกล้องจัดเป้และฟิล์มก้าวขาเดินออกไปหามารดาที่ห้องครัวเพื่อขอชุดปิคนิคขนาดย่อมๆก่อนเข้าไปอาบน้ำเมื่อจัดการตัวเองเรียบร้อยแล้วหญิงสาวก็ไปโทรศัพท์หาเพื่อนระหว่างรตากับปภาวดีและถามว่าใครพร้อมแล้วบ้าง จะได้แวะถูกไม่ต้องมานั่งเสียเวลาคอย
เมื่อลงมาข้างล่างเห็นหลังมารดาไหวๆ ที่ประตูมารดาคงจะเดินไปส่งบิดาที่รถเหมือนเช่นทุกวัน แต่ศิลาก็เดินออกไปดู
ไม่มี...!
ขยี้ตาแรงแล้วมองใหม่...
เหมือนเดิม
หายไปไหน..!?
ทำไมมารดาเดินเร็วนักสายตาเธอก็จับที่ร่างของมารดาตลอดเวลานี่นา ไม่น่าจะหายไปเร็วนักศิลาโคลงศีรษะไปมาแววตาฉงนแต่ก็เดินกลับเข้าไปด้านใน ตรงเข้าห้องครัวและเห็นมารดายืนล้างผักสดที่อ่าง ด้านข้างซ้ายมือถัดจากซิ้งล้างเป็นหม้อหุงข้าวและตะกร้าปิกนิกใบย่อมวางอยู่พร้อมอาหารวางเรียงในกล่องน่าทาน
ศิลาเดินเข้าไปโอบเอวมารดาไว้หลวมๆเอียงหน้าซบกับไหล่ท่านอย่างรักใคร่
“คุณแม่..น่ารักที่สุดเลยขอบคุณค่ะ”หล่อนยกศีรษะขึ้นตั้ง แล้วยื่นหน้าจุ๊บแก้มมารดาเบาๆ “จุ๊บ”
คุณมารศรีหันมายิ้มให้ลูกสาว “ประจบจะเอาอะไรจ้ะ? เด็กคนนี้”ถามกลับด้วยรอยยิ้มที่ระบายเต็มหน้า
ศิลาไม่พูดอะไร แต่เฉพูดไปถึงบิดา “คุณพ่อไปทำงานสายหรือคะวันนี้หนูเห็นคุณแม่เพิ่งเดินไปส่งเมื่อกี้”
คุณมารศรีชำเลืองมองมาทางลูกสาวแวบหนึ่ง “หนูละเมอหรือไงลูก..คุณพ่อออกไปเกือบชั่วโมงแล้ว และแม่ก็อยู่แต่ที่ในครัวนะยังไม่ได้ออกไปไหนเลย”
ศิลาสะดุ้งในใจอ้าปากค้างดวงตากลมโตด้วยความคลางแคลงสงสัย แต่ก็ไม่พูดอะไร
“วันนี้จะไปไหนกันหรือจ้ะกลับมืดหรือเปล่าลูก? ”คุณมารศรีถามเพราะลูกสาวออกจากบ้านติดต่อกันสองวันแล้ว
“คงเย็นๆ นะคะแม่ศิลามีนัดกับปภาวดีและเพื่อนอีกสองคน เรามีเรื่องคุยกันตามประสาสาวน้อยน่ะค่ะ”พูดแล้วก็ยิ้มหวานให้มารดาเช่นเคย
มารดายิ้มและมองลูกสาวคนเล็กด้วยสายตาอ่อนโยน “เห็นคุณพ่อบอกว่าจะไปหาพี่มณีนะพรุ่งนี้หนูไปด้วยไหมจ้ะ? หรือจะอยู่บ้าน !”ถามหยั่งเชิง
“ขอหนูคิดดูก่อนนะคะแม่กลับมาเย็นนี้จะให้คำตอบค่ะ”ก้าวขายืนเอียงตัวเข้าไปดูนาฬิกา “หนูไปก่อนนะคะ เดี๋ยววดีจะคอยค่ะ”ยื่นหน้าไปจูบแก้มมารดาอีกรอบไม่ลืมคว้าตะกร้าอาหารติดมือไปด้วย
ครอบครัวศิลามีกันสี่คนมีพี่สาวชื่อว่ามณีอีกคนหนึ่ง ซึ่งตอนนี้ไปเรียนแพทย์ในเมืองและเช่าหอพักอยู่ในรั้วมหาลัย เหตุผลที่ต้องอยู่ที่นั่นก็เพราะเรียนหนักมากและจะกลับมาบ้านส่วนน้อย บางครั้ง ก็ต้องไปหาพี่สาวที่หอเองหากคิดถึงและนานเกินไป
ใช้เวลาไม่มากนักศิลาก็มาถึงหน้าบ้านปภาวดีที่ออกมายืนรอเพื่อนอยู่แล้ว
“รอนานไหมวดี?”ถามเพื่อนเมื่อเปิดประตูเข้ามานั่งเรียบร้อย
“ฮื่อ..ไม่เลย คว้ากล่องผลไม้กะจะเดินออกมาดูเธอก็ขับรถมาพอดีนี่ล่ะจ้ะ เธอรองท้องอะไรมารึยัง? ”ตอบและถามกลับบ้าง
“เรียบร้อย..เธอล่ะ?”หันไปมองเพื่อนเห็นอมยิ้มก่อนพยักหน้า “ไม่น่าถามเลยฉัน”และทั้งคู่ก็หัวเราะขึ้นมาพร้อมกัน
“ไปหารตาเลยนะ”บอกเป้าหมายต่อไป
เมื่อแวะรับจนครบแล้วทั้งหมดก็มุ่งตรงไปที่โรงเรียนเป้าหมายต่อไปคือ บ้านของลุงจำเริญภารโรงประจำโรงเรียนนั่นเอง
ศิลาจอดรถไว้ด้านหน้าที่จอดประจำของครูประจำชั้น แล้วทั้งสี่ก็เดินเลยไปทางด้านหลังโรงเรียนซึ่งเป็นบ้านของลุงจำเริญที่แยกห่างออกไปประมาณ ๕๐๐ เมตร เมื่อทั้งสี่ไปถึงเห็นลุงกำลังนั่งเล่นกับหลานสาวตัวน้อยบนแคร่ด้านหน้า หมาเมื่อเห็นเด็กสาวทั้งสี่ก็กระดิกหางเดินไปหาด้วยความคุ้นเคย
“อ้าว..! มาได้ยังไงละเนี๋ย หืม! ”แกถามด้วยความฉงน เพราะไม่ค่อยมีเด็กมาช่วงเวลาปิดเทอมก็นึกแปลกใจ เมื่อรับไหว้จากเด็กๆ
“สวัสดีค่ะลุงจำเริญ คือว่าพวกหนูอยากจะขอยืมกุญแจของปีสองห้องเอหน่อยนะค่ะลุงพอดีรตาเขาลืมเอาสมุดรายงานกลับ กลัวจะไม่ได้ทำเพราะโรงเรียนใกล้จะเปิดแล้วเขาเลยชวนมาเป็นเพื่อนค่ะ”ปภาวดีพูดไปเป็นตุเป็นตะไม่สนใจว่ารตาเพื่อนรักจะเหยียบที่เท้ายังไงแต่พยายามชักเท้าที่เพื่อนเหยียบเอาไว้ออกด้วยสีหน้ายุ่งๆพร้อมกับปากที่ขมุบขมิบโดยไร้สรรพเสียง
“อ้าว..! แล้วกัน ทำไมขี้ลืมจังหนูรตา เดี๋ยวนะลุงจะไปหยิบมาให้”ลุงจำเริญกระเตงแม่หนูใส่เอวเมื่อลุกขึ้น แกหายไปสักครู่ก็เดินออกมาที่แคร่หน้าบ้านพร้อมกุญแจ
“อะ นี่ดอกนี้ ได้แล้วก็เอากุญแจมาคืนลุงนะอย่านานนักล่ะ มันผิดระเบียบ”แกกำชับอีกครั้งก่อนจะยื่นกุญแจให้ปภาวดีหัวหน้าชั้น
ทุกคนเดินกลับไปทางเดิมอีกครั้งแต่เป้าหมายเปลี่ยนเป็นบันไดขึ้นชั้นเรียนแทนรถยนต์ศิลาหยิบกล้องออกมาเตรียมไว้แล้ว และเริ่มถ่ายตั้งแต่บันไดทางขึ้นไปเรื่อยๆ ช้าๆแทบจะทุกจุดเลย
แช๊ะ แช๊ะ...!
“เตรียมฟิล์มมาเยอะหรือเปล่าศิลา? ”ปภาวดีถามเมื่อเห็นเพื่อนถ่ายเอาๆ
“สิบม้วนวดี เธอว่าพอไหม? ”คราวนี้ถามเหมือนปรึกษา
“ฮื่อ..น่าจะพอ”คาดเดาเมื่อคิดว่าฟิล์มม้วนหนึ่งสามสิบหกภาพเมื่อคูณสิบก็น่าจะพอ
วีรนุชมองคนนั้นทีคนนี้ทีด้วยความรู้สึกยากจะบรรยาย เพราะผีถ้วยแก้วเอย วิญญาณพเนจรเอยภาพถ่ายติดวิญญาณอยู่ ล้วนเป็นสิ่งที่หล่อนไม่เคยคิดว่าจะได้พบเห็นเคยนึกว่ามีแต่ในทีวีและหนังสือเท่านั้น ไม่คิดว่าจะต้องมาเจอกับตัวเองเลย
ศิลายกมือพนมขึ้นเหนืออก ปากขมุบขมิบ
สาธุหากวิญญาณของคุณนิลนาถยังอยู่ที่ห้องนี้ ได้โปรดปรากฏร่างด้วยเถอะ...!
โปรดติดตามตอนต่อไปค่ะ
ก้มกราบบ่อยๆจะช่วยลดความทระนงลงได้บ้าง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น