ยอประพันธ์ขวัญกานท์แว่วขานขับ
โสตสดับสำเนียงเพียงโฉมศรี
โอบขวัญมานล้อมกอดพลอดพจี
ส่งสู่จินต์น้องพี่กวีจร
หลับตามพริ้มอิ่มหอมพะยอมแต่ง
ร่ายสำแดงแจ้งรักถักอักษร
ระบำดาวระย้าท้าอัมพร
เรืองบวรงามรับกับนงเยาว์
เดินตามทางช้างเผือกเทือกภูผา
ดาวประดับงามตาคว้าคลายเหงา
ม่านราตรีคลี่กลบ..ลบหมอกเทา
จึ่งพบฝันของเราที่เฝ้ามอง
จับต้องแสงระยิบกะพริบพลิ้ว
ประกายเพ็ญเด่นปลิวละลิ่วล่อง
เป็นของฝากจากใจใสเรืองรอง
ทอแสงทองเป็นแพรห่มแก่กัน
หยิบแพรพรมห่มร่างอย่างอบอุ่น
ด้วยละมุนกรุ่นรักสลักฝัน
กอดประทับจุมพิตชิดรำพัน
หวังปลอบขวัญคนดีที่นิทรา
หลับด้วยความหวานชื่นรื่นรมย์รัก
ตื่นประจักษ์สดชื่นรื่นหรรษา
พรกำนัลวรรณกรรมล้ำโสภา
ประทับค่ากล่อมฝัน..ขวัญกวี..../ฯ
๐ สายลม แห่งรัก ๐
******************
งามยิ่งนักรักของน้องที่ร้องหา
มาวางลงตรงหน้าทายทักพี่
ร่ายกลอนหวานส่งมาพร้อมพาที
สุ้มสำเนียงวอนมีไม่หนีไกล
ส่งให้เพื่อนนอนหลับประทับอก
ทั้งหยิบยกคำอ้อนป้อนฝากไว้
ให้พี่น้องพ้อง พลั่กร้อยถักใย
สู่ดวงใจยามหลับไปกับวัน
ร้องระบำร่ำร่ายส่ายเอวไหว
ท่วงทำนองสั่นไปตามไฟฝัน
เดินบนทางช้างเผือกใกล้เปลือกจันทร์
จวบรุ่งขึ้นของวันนั้นไม่นาน
ส่งความรักมาให้ใกล้เสมอ
เผื่อว่าเธอนึกถึงซึ้งในสาสน์
กอบเก็บความห่วงใยใส่ในกานท์
ร่ายมนต์กลอนอ้อนผ่านฟากน่านไพร
ให้อิงอุ่นในกลอนที่อ้อนหา
ทั้งเวลาก็ให้มากมายได้
เก็บเอาดาวเดือนล้อมพร้อมฝากใจ
จะมีหวานใดไหนปานเมื่ออ่านกลอน
มามองดาวคืนนี้ถ้ามีเดือน
เมฆก็เคลื่อนลอยมาพาใจถอน
ถ้าหากว่ามีฝนโปรยโบกก่อน
จะมีใครมาป้อนร่อนลำนำ
พี่ฝากความรักในฟากฟ้า
ที่ชายป่าข้างเรือนเยือนขหนำ
มาบอกรักทักทายให้เจ้าจำ
ทั้งคมคำคมกลอนร่อนข้ามคืน
น้องเห็นไหมลำนำคำพี่ให้
เดือนและดาวพร่างไหวในป่าผืน
ฟากฟ้าหม่นมืดมัวทั่วทั้งคืน
ไร้เดือนดาวร่ายรื่นชื่นฤทัย
ณ ที่นี่ไม่มีดาวดาษดื่น
แต่ค่ำคืนฝั่งนี้ที่ผ่องใส
ช่างสุขในคำวอนอ้อนเหลือใจ
ริ้วทุ่งไพรในถิ่นหมิ่นเขตแดน.../ฯ
Pear askshorn ๒๕/๑๑/๕๕
*ขอบคุณบทกวีของน้องน้ำหวานมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ "ขอบคุณค่ะ"
โสตสดับสำเนียงเพียงโฉมศรี
โอบขวัญมานล้อมกอดพลอดพจี
ส่งสู่จินต์น้องพี่กวีจร
หลับตามพริ้มอิ่มหอมพะยอมแต่ง
ร่ายสำแดงแจ้งรักถักอักษร
ระบำดาวระย้าท้าอัมพร
เรืองบวรงามรับกับนงเยาว์
เดินตามทางช้างเผือกเทือกภูผา
ดาวประดับงามตาคว้าคลายเหงา
ม่านราตรีคลี่กลบ..ลบหมอกเทา
จึ่งพบฝันของเราที่เฝ้ามอง
จับต้องแสงระยิบกะพริบพลิ้ว
ประกายเพ็ญเด่นปลิวละลิ่วล่อง
เป็นของฝากจากใจใสเรืองรอง
ทอแสงทองเป็นแพรห่มแก่กัน
หยิบแพรพรมห่มร่างอย่างอบอุ่น
ด้วยละมุนกรุ่นรักสลักฝัน
กอดประทับจุมพิตชิดรำพัน
หวังปลอบขวัญคนดีที่นิทรา
หลับด้วยความหวานชื่นรื่นรมย์รัก
ตื่นประจักษ์สดชื่นรื่นหรรษา
พรกำนัลวรรณกรรมล้ำโสภา
ประทับค่ากล่อมฝัน..ขวัญกวี..../ฯ
๐ สายลม แห่งรัก ๐
******************
งามยิ่งนักรักของน้องที่ร้องหา
มาวางลงตรงหน้าทายทักพี่
ร่ายกลอนหวานส่งมาพร้อมพาที
สุ้มสำเนียงวอนมีไม่หนีไกล
ส่งให้เพื่อนนอนหลับประทับอก
ทั้งหยิบยกคำอ้อนป้อนฝากไว้
ให้พี่น้องพ้อง พลั่กร้อยถักใย
สู่ดวงใจยามหลับไปกับวัน
ร้องระบำร่ำร่ายส่ายเอวไหว
ท่วงทำนองสั่นไปตามไฟฝัน
เดินบนทางช้างเผือกใกล้เปลือกจันทร์
จวบรุ่งขึ้นของวันนั้นไม่นาน
ส่งความรักมาให้ใกล้เสมอ
เผื่อว่าเธอนึกถึงซึ้งในสาสน์
กอบเก็บความห่วงใยใส่ในกานท์
ร่ายมนต์กลอนอ้อนผ่านฟากน่านไพร
ให้อิงอุ่นในกลอนที่อ้อนหา
ทั้งเวลาก็ให้มากมายได้
เก็บเอาดาวเดือนล้อมพร้อมฝากใจ
จะมีหวานใดไหนปานเมื่ออ่านกลอน
มามองดาวคืนนี้ถ้ามีเดือน
เมฆก็เคลื่อนลอยมาพาใจถอน
ถ้าหากว่ามีฝนโปรยโบกก่อน
จะมีใครมาป้อนร่อนลำนำ
พี่ฝากความรักในฟากฟ้า
ที่ชายป่าข้างเรือนเยือนขหนำ
มาบอกรักทักทายให้เจ้าจำ
ทั้งคมคำคมกลอนร่อนข้ามคืน
น้องเห็นไหมลำนำคำพี่ให้
เดือนและดาวพร่างไหวในป่าผืน
ฟากฟ้าหม่นมืดมัวทั่วทั้งคืน
ไร้เดือนดาวร่ายรื่นชื่นฤทัย
ณ ที่นี่ไม่มีดาวดาษดื่น
แต่ค่ำคืนฝั่งนี้ที่ผ่องใส
ช่างสุขในคำวอนอ้อนเหลือใจ
ริ้วทุ่งไพรในถิ่นหมิ่นเขตแดน.../ฯ
Pear askshorn ๒๕/๑๑/๕๕
*ขอบคุณบทกวีของน้องน้ำหวานมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ "ขอบคุณค่ะ"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น